logo

RSI (Relative Strength Index)

RSI (Relative Strength Index) คือ เครื่องมือทางเทคนิคประเภท Momentum วัดการแกว่งตัวของราคาว่ามีภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือ การขายมากเกินไป (Oversold) มีค่าตั้งแต่ 0-100

หน้าตาของ RSI

ประโยชน์ของ RSI

1.ใช้ RSI ดูราคาซื้อ – ขาย ว่าอยู่ในระดับ Peak แล้วหรือยัง

-ถ้าเส้น RSI อยู่เหนือระดับ 70 เรียกว่า Overbought

-ถ้าเส้น RSI อยู่ต่ำกว่าระดับ 30 เรียกว่า Oversold

2.ใช้ RSI ดูการแนวโน้ม การกลับตัวของราคา (Divergence)

3.ใช้ RSI ดูสัญญาณซื้อขาย

การที่ RSI อยู่ใน Overbought Zone ราคาจะเป็นไปได้ 3 ทาง

1.ราคาขึ้นต่อ

2.ราคาขึ้นพักตัว แล้วขึ้นต่อ

3.ราคาขึ้นแล้วลง

ในทางตรงกันข้าม หาก RSI อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 30 จะมีสัญญาณที่บ่งบอกได้ 3 ทางเช่นกัน

1.ราคาลงต่อ

2.ราคาลง เด้งขึ้นชั่วคราว แล้วลงต่อ

3.ราคาลง แล้วกลับตัวขึ้น

2.ใช้ RSI ดูการแนวโน้ม การกลับตัวของราคา (Divergence)

-Bullish Divergence (กระทิงกำลังจะมาแล้วหรือยัง)มักจะส่งสัญญาณให้เราเห็นในช่วงที่ราคาแนวโน้มเป็น Downtrend เวลาแนวโน้มเป็น Downtrend ให้เราดูการขัดกันของราคาที่จุดต่ำที่สุด เราดูแนวโน้มมองหาความ Divergence จาก RSI ที่ระดับ 30 หรือต่ำกว่า

-Bearish Divergence (หมีกำลังมาแล้วหรือยัง )เป็นสิ่งที่กำลังจะบอกเราในช่วงที่ Uptrend เวลาเราดู Divergence ในTrend ขาขึ้นให้ดูที่ยอด High ราคาได้ทำ Higher High แต่ Indicators ทำ Lower High มันขัดกัน ดังนั้น RSI เตือนว่าราคามันจะกลับตัวจากขึ้นเป็นลง อาจจะมีพักตัว

3.ใช้ RSI ดูสัญญาณซื้อ – ขาย มี 3 เงื่อนไข

1.ใช้ Timeframe Day เพื่อหาแนวโน้มขาขึ้น ในกรณีที่เราจะเปิด Order Buy

2.เปิด TF H1 หรือ H4 หาสัญญาณ RSI “Over Sold”

3.รอแท่งเทียน Break Out เรากำลังรอราคาที่ไปทะลุแนว หรือเหนือกว่าแนว โดยปกติจะมีอยู่ 3 แนวสำคัญ

-แนวต้านสำคัญ

-Trend Line ถ้า Break Trend Line ขึ้นไปก็เปิด Order ได้เลย

-เส้น EMA 20,50

การปิดออเดอร์ จุด Take Profit มี 2 วิธี

1.เราจะขายหรือปิด Order ก็ต่อเมื่อ RSI เข้า Zone Overbought ซึ่งส่วนใหญ่จะได้กำไรเร็ว แต่อาจจะขายหมู (ขายปุปเด้งขึ้นต่อ) RSI เข้า Zone Overbought ปิด Order

2.ราคาปิดหลุด Low เดิม จากการยก Trailing Stop

สรุปและสิ่งที่ควรรู้

การใช้ RSI เพียงอย่างเดียวในการบ่งบอกการซื้อขายถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะมีโอกาสผิดพลาดสูง โดยเราต้องใช้ความรู้ในด้านอื่นๆประกอบการตัดสินใจด้วย เช่น การเกิดแนวโน้ม รูปแบบราคา หรือรูปแบบแท่งเทียนต่างๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นการอ่านกราฟให้แม่นยำต้องเกิดจากประสบการณ์ลองผิดลองถูก สังเกตพฤติกรรมราคาของสินทรัพย์ที่ตนเทรดบ่อยๆ ดังนั้นการฝึกฝนเป็นสิ่งสำคัญ

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม