- เมื่อวานนี้ราคาทองปิดบวก 14 ดอลลาร์ จากกระแสของวิกฤตธนาคารที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ดัชนี CPI m/m เดือนเม.ย. คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลเสียต่อราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ดัชนี Core CPI m/m เดือนเม.ย. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ดัชนี Core CPI y/y เดือนเม.ย. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดขายออก 2.6 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 934.95 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways Up
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่2 ในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้
- นักวิเคราะห์จากบริษัท FXTM แสดงความเห็นว่า “นักลงทุนจับตารายงานดัชนี CPI ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยหาก CPI ยังคงอยู่ในระดับสูง ก็อาจจะฉุดราคาทองร่วงหลุดจากระดับ 2,015 ดอลลาร์ และหากตัวเลข CPI ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ ก็คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งนิวไฮอีกครั้ง”
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานด้านเสถียรภาพการเงินรอบครึ่งปี โดยระบุว่า ในภาพรวมนั้น ภาคธนาคารของสหรัฐยังคงอยู่ในสถานะที่ดี และสามารถต้านทานภาวะปั่นป่วนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ โดยระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐได้เพิ่มมาตรฐานการปล่อยกู้ที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงต้นปีนี้ ขณะที่ความต้องการเงินกู้ของภาคธุรกิจและผู้บริโภคชะลอตัวลง ซึ่งรายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการเงินของสหรัฐ
- ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์เปิดที่ 2020 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2019 ดอลลาร์ ก่อนราคาพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2034 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
เมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดบวก 14 ดอลลาร์ จากกระแสของวิกฤตธนาคารที่ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง (+) ทั้งนี้ความต้องการเงินกู้ของภาคธุรกิจและผู้บริโภคชะลอตัวลง ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการเงินของสหรัฐและไม่จำเป็นต้องปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก (+) ขณะที่ภาพรวมทองคำยังคงเป็นแนวโน้มทิศทาง Sideways Up โดยอยู่ในช่วงของการปรับฐานทํากําไร หลังจากที่ราคาทองคํา ขึ้นไปทําจุดสูงสุดที่บริเวณ 2,073 ดอลลาร์ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,020 ดอลลาร์ และ 2,010 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,055 ดอลลาร์ และ 2,065 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 2020 แนวต้านที่ 1 2055
แนวรับที่ 2 2010 แนวต้านที่ 2 2065
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
