logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 26 เมษายน 2567

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.25 จุด หรือ -0.24% มาอยู่ที่ระดับ 105.58 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.706% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.07 % มาอยู่ที่ระดับ 5.002% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.3% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
  • สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) กำลังเผชิญกับทางเลือกในตอนนี้ว่า บีโออีจะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย.ปีนี้เหมือนกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) หรือว่าบีโออีอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเลยในปีนี้เหมือนกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงทะลุ 155 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ (25 เม.ย.) ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี โดยการอ่อนค่าของเงินเยนมีขึ้นในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีกำหนดเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในวันศุกร์นี้ (26 เม.ย.) และแม้ว่าทางการญี่ปุ่นจะออกมาแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา (FX) ด้วยวาจาก็ตาม
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดและตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 1/2567 นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากแรงขายหุ้นที่มีทุนจดทะเบียนสูง หลังจากบริษัทเมตา แพลตฟอร์มเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,085.80 จุด ลดลง 375.12 จุด หรือ -0.98%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,048.42 จุด ลดลง 23.21 จุด หรือ -0.46%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,611.76 จุด ลดลง 100.99 จุด หรือ -0.64%
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในไตรมาส 1/2567 พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งสูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่ปรับตัวขึ้น 1.8% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% สูงกว่าในไตรมาส 4/2566 ที่เพิ่มขึ้น 2.0% ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยดัชนี PCE ประจำไตรมาส 1/2567 ก่อนที่จะเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้ 
  • กรรมการผู้จัดการฝ่ายการซื้อขายและการลงทุนจากบริษัท E*Trade กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อกลับสูงขึ้น (Stagflation) ซึ่งอาจทำให้เฟดประสบกับความยากลำบากในการดำเนินนโยบายการเงิน ส่วนแนวโน้มในระยะสั้นนั้น เราคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้จะส่งผลให้ตลาดเผชิญกับความไม่แน่นอน
  • การเปิดเผย GDP ที่ต่ำกว่าคาดและตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในไตรมาส 1 ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้
  • เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากสหรัฐ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนที่ควบคุมโดยรัฐบาลอาจสร้างปัจจัยที่นำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้รอบใหม่เร็วที่สุดในปีหน้า ซึ่งจะเป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ของบริษัทจีนรอบที่ 3 ในรอบประมาณหนึ่งทศวรรษ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวต่ำในรอบเกือบ 2 ปียังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 16.54 เหรียญ หรือ 0.71% อยู่ที่ระดับ 2,332.49 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.10 เหรียญ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,342.50 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.1 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 27.633 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.70 เหรียญ หรือ 0.51% ปิดที่ 920.50 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.15 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 834.78 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ซื้อสุทธิ 4.63 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 44.33 ตัน
  • นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals ระบุว่า ทองคำและเงินกำลังเผชิญกับภาวะการปรับฐาน (correction) เนื่องจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางลดลง คำถามสำคัญคือ การปรับฐานครั้งนี้จะกลายเป็นแนวโน้มขาลงของราคาในระยะใกล้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังถึงจุดสูงสุดหรือไม่  
  • นักวิเคราะห์จาก Genesis Gold Group กล่าวว่า ในระยะยาว ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่มีการเลือกตั้ง รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศยังคงมีอยู่ และหนี้สินของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  
  • นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/2567 ขยายตัวเพียง 1.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% โดยตัวเลข GDP ที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้เป็นการประมาณการครั้งที่ 1
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐแสดงความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางอาจจะได้รับผลกระทบจากการที่อิสราเอลโจมตีเมืองราฟาห์ในฉนวนกาซา
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 83.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 89.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ในช่วงแรกนั้น ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพียง 1.6% ในไตรมาส 1/2567 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยตัวเลข GDP ที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้เป็นการประมาณการครั้งที่ 1
  • แต่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากนางเยลเลนเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงทำผลงานได้ดี พร้อมกับคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอาจจะขยายตัวแข็งแกร่งกว่าที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานล่าสุด และคาดว่าทางกระทรวงอาจจะปรับเพิ่มประมาณการตัวเลข GDP หลังได้รับข้อมูลเพิ่มเติม และคาดว่าเงินเฟ้อก็อาจจะชะลอตัวลงสู่ระดับปกติ
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

นักลงทุนแห่ถอนเงินกว่า 1.3 หมื่นล้านบาทออกจาก Binance ในวันเดียวหลังถูก CFTC เข้าฟ้อง

ราคา Bitcoin ปิดลบ 750 ดอลลาร์หลังจากที่ Commodity and Futures Trade Commission (CFTC) เข้าฟ้องร้อง ต่อ Binance กระดานเทรดคริปโตอันดับ 1 ของโลก

อ่านเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 20/07/2023

นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 3.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

อ่านเพิ่มเติม