- ราคาทองวิ่งในกรอบแคบ หลังตลาดสหรัฐหยุดทำการเมื่อวานนี้ โดยตลาดยังจับตาเพดานหนี้สหรัฐซึ่งอยู่ในขั้นตอนร่างกฎหมายสู่สภาคองเกรส และลงนามจาก ปธน. ไบเดน ว่าจะทันก่อนเส้นตายหรือไม่ นอกจากนี้ตลาดยังให้ความสนใจแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมที่จะถึงเดือน มิ.ย. ซึ่งหนักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นอย่างต่อเนื่องว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- เครื่องมือ Fedwatch tool ของ CME GROUP ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 37% มีแนวโน้มที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย และให้น้ำหนัก 63% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 25-5.50% ในการประชุมเฟดวันที่ 13-14 มิ.ย.
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ ดัชนีราคาบ้าน เดือน มี.ค. 19.30 น. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมามากกว่าคาดจะส่งผลบวก(+)ต่อราคาทองคำ
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่นักลงทุนควรเฝ้าระวังในวันนี้ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ค. เวลา 21.00 น. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมามากกว่าคาดจะส่งผลบวก(+)ต่อราคาทองคำ
- ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.07% อยู่ที่ระดับ104.3 และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลดลง -0.02% มาอยู่ที่ระดับ 3.773% เมื่อคืนนี้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
- ดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาทองคำ
- ความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟด
- ตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งตลาดแรงงาน
- ความคืบหน้าเพดานหนี้สหรัฐ
มุมมองทองคำทาง Technical
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ทดสอบlowที่ระดับ 1940 โดยราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1935 – 1950 เนื่องจากตลาดปิดทำการ ภาพรวมแนวโน้มราคาทองคำเป็น Downtrend ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้แสดงความเห็นตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาทองคำมีแรงซื้อสลับแรงขาย โดยแนวรับ/แนวต้านที่สำคัญถัดไป อยู่ที่ระดับ 1935 และ 1960
Technical View
แนวรับที่ 1 1935 แนวต้านที่ 1 1950
แนวรับที่ 2 1925 แนวต้านที่ 2 1960
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
