วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 12/04/2024

  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอังกฤษ การผลิตภาคอุตสาหกรรม m/m เดือน ก.พ. คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภค เดือน เม.ย จาก UoM. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค เดือน เม.ย จาก UoM คาดการณ์ว่าออกมาเท่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลบวกลบต่อราคาทองคำ
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Uptrend
  • ยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ แมเนจเมนต์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. เทียบกับที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนมี.ค. และเฟดจะลดดอกเบี้ย2 ครั้งในปีนี้ โดยจะปรับลดครั้งละ25%
  • หลังเปิดเผยตัวเลข PPI ต่ำกว่าคาดหนุนความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ขณะที่ความกังวลด้านภูมิศาสตร์หนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
มุมมองทองคำทาง Technical

ภาพรวมราคาทองคําแนวโน้มเป็นทิศทางขาขึ้นมีการแกว่งตัวอย่างรุนแรง โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดใกล้จุดสูงสุดของวันและวันนี้ได้ทำ All Time High ใหม่ ในระยะสั้นหากราคาปรับตัวลดลงอาจมีแรงซื้อเก็งกำไรเป็นช่วงๆ ซึ่งขณะนี้ราคาทองคำทรงตัวอยู่ในกรอบ 2365 – 2400 ดอลลาร์ แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นช่วงราคาทองคำย่อตัวและให้ระมัดระวังแรงเทขายกำไร

Technical View

แนวรับที่ 1  2365 แนวต้านที่ 1 2400
แนวรับที่ 2  2355 แนวต้านที่ 2 2410

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน 

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ตลาดจับตาผลการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐบวกดัชนีดอลลาร์แข็งค่า ส่งผลกดดันทองปิดลบ 4.4 ดอลลาร์

หากสภาคองเกรสและทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ นักวิเคราะห์คาดว่าอาจส่งผลกดดันราคาทองให้ปรับตัวลดลงกลับไปทดสอบแนวรับระดับที่ 1950 ดอลลาร์

อ่านเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 07/06/2023

เครื่องมือ Fedwatch tool ของ CME GROUP ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 75.9% มีแนวโน้มที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย และให้น้ำหนัก 24.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเฟดวันที่ 13-14 มิ.ย.

อ่านเพิ่มเติม