- เมื่อวันก่อนราคาทองปรับตัวลง 17 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนเทขายทำกำไร หันไปสนใจ Bitcoin Spot ETF ที่กำลังจะมาแทน
- ลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเตือนว่า เฟดอาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นอีกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้การร่วงลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น
- เจเน็ท เยลเลน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังชะลอตัวลงอย่างนุ่มนวล และภาวะเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเป็นระยะเวลาต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ชาวอเมริกันรู้สึกดีกับแนวโน้มอนาคตของตนเอง
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 869.6 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways Down
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว
- นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ม.ค.67 อยู่ที่ 66.90 จุด ปรับเพิ่มขึ้นจาก 64.89 จุดในเดือน ธ.ค.66 เพิ่มขึ้น 2.01 จุด หรือ 3.10% โดยปัจจัยจากแรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางชาติต่างๆ ทั่วโลก การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ แรงซื้อช่วงเทศกาล และแรงซื้อจากกองทุน
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ครายงานว่า ดัชนีแรงกดดันในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกร่วงลงจาก +0.13 ในเดือนพ.ย. สู่ -0.15 ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขที่ระดับติดลบบ่งชี้ว่า แรงกดดันในห่วงโซ่อุปทานอยู่ต่ำกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อได้รับแรงหนุนน้อยลง
- ราคาทองคำเมื่อวานก่อนเปิดที่ 2043 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2016 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2027 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
เมื่อวันก่อนราคาทองคำปิดลบ 17 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนเทขายทำกำไร หันไปสนใจ Bitcoin Spot ETF ที่กำลังจะมาแทน (-) ราคาทองคำทำ New Low จากวันก่อนหน้าและยังมีแรงซื้อซื้อเพิ่มขึ้น หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 2,054 – 2,048 ได้ แนะนำนักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Sell และปิดทำกำไรแถวระดับ 2,017 – 2,000 ดอลลาร์ (-) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways Down โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,025 ดอลลาร์ และ 2,015 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,045 ดอลลาร์ และ 2,055 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 2025 แนวต้านที่ 1 2045
แนวรับที่ 2 2015 แนวต้านที่ 2 2055
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
