- เมื่อวันก่อนราคาทองปรับตัวลง 0.81 ดอลลาร์ Bond Yield กดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง
- วันนี้มีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ FOMC Member Bostic Speaks
- วันนี้มีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ FOMC Member Williams Speaks
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 826.94 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideway Up
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังได้แรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนเพื่อชดเชยการขายชอร์ต (short covering) ด้วย
- FedWatch tool ของCME Group บ่งชี้ว่า มีโอกาส1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.ปีนี้
- คริสติน ลาการ์ดกล่าวว่า มีสัญญาณบ่งชี้มากยิ่งขึ้นว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะกระเตื้องขึ้นในช่วงต่อไปในปีนี้ และเธอกล่าวเสริมว่า มีแนวโน้มว่ากระบวนการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อจะยังคงดำเนินต่อไป
- ราคาทองคำเมื่อวานก่อนเปิดที่ 2030 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2028 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2030 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
เมื่อวันก่อนราคาทองคำปิดลบ 0.81 ดอลลาร์ Bond Yield กดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง (-) หลังราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นยังคงมีแรงขายกดดันราคาและราคายังไม่ทำ New High จากวันก่อนหน้า แนะนำนักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Sell บริเวณ 2,042 – 2,050 และตัดขาดทุนที่ระดับ 2,050 ดอลลาร์ (-) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideway Up โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,020 ดอลลาร์ และ 2,010 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,040 ดอลลาร์ และ 2,050 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 2020 แนวต้านที่ 1 2040
แนวรับที่ 2 2010 แนวต้านที่ 2 2050
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
