- เมื่อวันก่อนราคาทองปิดลบ 22.20 ดอลลาร์ รับ Bear Flag pattern บอนยีลด์สหรัฐพุ่ง
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ GDP ไตรมาส 1/2024 (ประมาณการครั้งที่ 2) คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
- วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐ ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือนเม.ย. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
- กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 832.21 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideway
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังเจ้าหน้าที่เฟดต่างส่งสัญญาณต้องการเห็นเงินเฟ้อชะลอตัวต่อไปอีกหลายเดือน ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ย.
- ราคาทองคำเมื่อวันก่อนหน้าเปิดที่ 2351 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2340 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2361 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical
เมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดลบ 22.20 ดอลลาร์ รับ Bear Flag pattern บอนยีลด์สหรัฐพุ่ง (-) หากราคาทองคำขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านที่ระดับ 2,360 – 2,375 ดอลลาร์ แล้วไม่สามารถยืนได้ แนะนำนักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Sell ที่ระดับดังกล่าวและตัดขาดทุนที่ระดับ 2,360 ดอลลาร์ โดยแบ่งทำกำไร หากราคาร่วงลงแนวรับที่ระดับ 2,340 – 2,325 ดอลลาร์ตามการพิจารณาของนักลงทุน (-) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,315 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,360 ดอลลาร์ และ 2,375 ดอลลาร์
Technical View
แนวรับที่ 1 2315 แนวต้านที่ 1 2360
แนวรับที่ 2 2300 แนวต้านที่ 2 2375
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
