logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2566

  • Zipmex ถูกตำรวจตั้งข้อหาในคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นนับเป็นอาญาแผ่นดิน หรือมีความผิดต่อแผ่นดิน หมายความว่าเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้ แม้จะมีผู้บริหาร Zipmex หาเงินมาคืนได้หรือไม่ก็ตาม เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นในเรื่องของความผิดอาญา
  • รัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติให้มีการปรับเปลี่ยนกฎหมายภาษี เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อบริษัทที่ถือครองเงินดิจิทัล ( Cryptocurrency) การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ การยกเว้นภาษีจากมูลค่าตลาด Crypto ที่บริษัทถือครอง ณ ช่วงสิ้นปี
  • โลกคริปโตกำลังคึกคักด้วยโซลูชันการปรับขนาดแบบ Layer-2 และ Shibarium ของ Shiba Inu ซึ่งเครือข่ายเพิ่งประสบความสำเร็จในการทำธุรกรรมทั้งหมดทะลุ 140 ล้านรายการ ในขณะที่มีค่าธรรมเนียมแก๊สต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) จะปรับเปลี่ยนตัวสมาชิกผู้มีสิทธิโหวตในแต่ละปี และการเปลี่ยนตัวผู้มีสิทธิโหวตในปี 2024 ก็จะส่งผลให้เจ้าหน้าที่เฟดสายเหยี่ยวจำนวนมากยิ่งขึ้นเข้ามามีสิทธิโหวตเมื่อเทียบกับในปี 2023 อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่า การปรับเปลี่ยนตัวผู้มีสิทธิโหวตในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า 
  • สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินเหรินหมินปี้ (RMB) หรือสกุลเงินหยวนของจีน กลายเป็นสกุลเงินที่ถูกใช้ชำระเงินทั่วโลกมากที่สุดอันดับ 4 ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยครองส่วนแบ่ง 4.61%
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค. โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับแนวทางการสื่อสารให้ตลาดรับรู้เกี่ยวกับการปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) โดยกรรมการบางส่วนพยายามอธิบายว่า การปรับ YCC ถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการปูทางไปสู่การยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ (Ultra-loose Monetary Policy)
  • กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากการปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้างของราคาในภาคบริการ แต่เงินอุดหนุนด้านพลังงานได้จำกัดการปรับขึ้นของราคาโดยรวม
  • รมว.คลังอังกฤษกล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษไม่ได้มีแนวโน้มที่ย่ำแย่มากเท่ากับที่ตัวเลขเศรษฐกิจบ่งชี้ไว้ โดยเขาระบุในแถลงการณ์ว่า “เศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มระยะกลางที่ดีกว่าที่ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ไว้เป็นอย่างมาก”
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 0.1% ซึ่งย่ำแย่กว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่า GDP ไม่มีการขยายตัว (0%) จากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย โดยในทางเทคนิคนั้น ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจหดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส 
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ชะลอตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 17.80 เหรียญ หรือ 0.87% ปิดที่ 2,069.10 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.00 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 24.565 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.50 เหรียญ หรือ 1.19% ปิดที่ 981.80 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 878.25 ตันภาพรวมเดือนธันวาคม ซื้อสุทธิ 1.74 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 39.39 ตัน
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ ก่อนตลาดหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยตลาดจะปิดทำการในวันจันทร์ (25 ธ.ค.) เนื่องในวันคริสต์มาส โดยสัญญาน้ำมันดิบถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า แองโกลาอาจเพิ่มการผลิตน้ำมันหลังจากถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปก
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 73.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 79.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้นราว 3% ในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากปรับตัวขึ้นน้อยกว่า 1% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • แองโกลาประกาศว่าจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เนื่องจากไม่พอใจที่โอเปกปรับลดโควตาการผลิตน้ำมันของแองโกลา โดยเป็นสมาชิกรายล่าสุดที่ถอนตัวหลังจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายประเทศได้ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของโอเปกซึ่งได้แก่กาตาร์ อินโดนีเซีย และเอกวาดอร์
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 29/08/2023

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 78.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 21.5% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50-5.75%

อ่านเพิ่มเติม