logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 18 มกราคม 2567

  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 55% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักกว่า 60% ในช่วงก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีก นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 40.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันดังกล่าว หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34.9% ก่อนหน้านี้
  • ประธานาธิบดีคริสติน ลาการ์ดกล่าวให้สัมภาษณ์ที่ Bloomberg House ในเมืองดาวอสว่า ธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อน 
  • ปอนด์แข็งค่าหลังอังกฤษเผยอัตราเงินเฟ้อเร่งสูงขึ้น สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อังกฤษเร่งตัวขึ้นสู่ 4.0% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการเร่งตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน โดยปรับขึ้นจาก 3.9% ในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี 
  • ดัชนี Hang Seng China Enterprises ลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2022 มาตรฐานเนื่องจากชาวต่างชาติขายหุ้นมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ เมื่อคำนวณสุทธิ ซึ่งมากที่สุดในรอบ 1 ปี
  • สำนักข่าวรอยเอตร์รายงาน การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของจีนและยอดขายบ้านที่ตกต่ำครั้งใหม่ ทำให้นักลงทุนมีความมุ่งมั่นในการหลีกเลี่ยงตลาดของประเทศเป็นสองเท่า ส่งผลให้หุ้นร่วงลงเนื่องจากชาวต่างชาติลาออกเนื่องจากขาดการสนับสนุนนโยบายใหม่
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2566 ของจีน ขยายตัว 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ราว 5% หลังจากจีนยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นมาตรการที่ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงสู่ระดับ 3% ในปี 2565
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 5.6% ในเดือนธ.ค.
  • การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ให้ความสนใจ ขณะที่เธอกำลังพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น
  • นางกีตา โกปินาธ รองกรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า นโยบายคุมเข้มด้านการเงินที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมานั้น มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐแล้วประมาณ 75%
  • การที่กบฏฮูตีในเยเมนโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงแบบต่อเนื่องไม่เพียงทำให้อัตราค่าระวางเรือพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังจะทำให้อัตราค่าระวางการขนส่งทางอากาศปรับตัวขึ้นด้วย เนื่องจากการไหลเวียนของการค้าทั่วโลกเผชิญกับภาวะติดขัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
  • Bitcoin ขึ้นแท่นสินทรัพย์ ETF ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐฯ แซงหน้า ‘แร่เงิน’
  • นักวิเคราะห์ชี้ Dogecoin อาจพุ่งขึ้นไปแตะ 5 ดอลลาร์ได้ หลังราคาเหรียญมีรูปแบบคล้ายกับปี 2020
  • อ้างอิงจากแถลงการณ์ของ Binance มีจำนวนเหรียญ BNB ถูกเผาไปจำนวนทั้งสิ้น 2.14 ล้านเหรียญ ตามแผนการ Pioneer Burn Program  ซึ่งมูลค่าของเหรียญที่ถูกเผาไปนั้นมีมูลค่าราว 2.2 หมื่นล้านบาท
  • สรรพากรสหรัฐฯ ยอมถอย ปรับแก้กฎหมายไม่ต้องรายงานเงินได้จากคริปโตที่มีมูลค่าเกิน 10,000 ดอลลาร์
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -22.16 เหรียญ หรือ -1.09% อยู่ที่ระดับ 2,006.35 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 23.70 เหรียญ หรือ 1.17% ปิดที่ 2,006.50  เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 42.40 เซนต์ หรือ 1.84% ปิดที่ 22.669  เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 14.80 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 889.60  เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 2.3 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 862.1 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 17.01 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 17.01 ตัน
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากมีรายงานว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในพื้นที่บางแห่งของสหรัฐปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์พลังงานในจีน
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 77.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ราคาน้ำมัน WTI ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า รัฐนอร์ท ดาโคตา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ของสหรัฐ เผชิญกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศาฟาเรนไฮต์ ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในรัฐแห่งนี้ลดลงราว 650,000 – 700,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นเป็นสัดส่วนสูงกว่า 50% ของการผลิตในภาวะปกติ
  • อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า GDP จีนขยายตัว 5.2% ในไตรมาส 4/2566 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.3% และทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนจะฟื้นตัวในปีนี้หรือไม่
  • EIA คาดว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐจะลดลงเหลือ 9.68 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ. อันเนื่องมาจากผลผลิตที่ลดลงของภูมิภาคอีเกิลฟอร์ดและแบ็คเคน ขณะที่ผลผลิตจากภูมิภาคที่มีการผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับต้น ๆ ของสหรัฐอย่างลุ่มน้ำเพอร์เมียนก็ชะลอตัวลง
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ราคา Bitcoin จะสามารถยืนเหนือระดับ 29,500 ดอลลาร์ได้หรือไม่

หลังจากครึ่งปีแรกของปี 2023 ราคาของ Bitcoin ดูเหมือนจะขยับอยู่ในช่วงราคาระหว่าง 29,000 ถึง 31,500 ดอลลาร์ ซึ่งเราจะพาไปดูปัจจัยที่ทำให้ราคา Bitcoin ฟอร์มตัวแบบ Sideway อยู่ตลอดเวลา

อ่านเพิ่มเติม

ราคา Bitcoin ร่วงหลุดระดับ 22,000 ดอลลาร์ หลัง SEC ต้องการยกเลิกให้มีการ Stake

รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่าการ stake นั้นก็เปรียบเสมือนกับหลักทรัพย์ในสหรัฐฯและเว็บกระดานเทรด Kraken นั้นกำลังถูกเล็งเล่นงานจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ในข้อหาเปิดให้เทรดหลักทรัพย์อย่างผิดกฎหมาย

อ่านเพิ่มเติม