logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567

  • สับขาหลอก! ราคา Bitcoin ร่วงแตะ 42,000 ดอลลาร์อย่างรุนแรง หลัง FED ประกาศคงดอกเบี้ยตามคาดการณ์
  • สาวรายหนึ่งถูกยึด Bitcoin 1.7 พันล้านดอลลาร์ หลังจากพยายามซื้อคฤหาสน์ 30 ล้านดอลลาร์ด้วย Bitcoin
  • ทาง Ripple โดนแฮ็กระบบสูญเสียเหรียญไปกว่า 213 ล้าน XRP คิดเป็นมูลค่าประมาณ 112.5 ล้านดอลลาร์
  • Jupiter (JUP) ของ Solana มีปริมาณซื้อขายพุ่งทะลุ 450 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมง
  • Visa ประกาศเปิดตัว ระบบการถอนสกุลเงินดิจิทัลใน 145 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 4 อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย โดยเฟดระบุในแถลงการณ์ว่า “คณะกรรมการ FOMC มองว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน”
  • นายบอริส วูจซิค สมาชิกสภาบริหารธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า วันที่แน่นอนสำหรับการเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีเป็นเรื่องที่สำคัญรองลงมา แต่ทันทีที่อีซีบีเริ่มดำเนินการ อีซีบีก็อาจจะลดดอกเบี้ยในสัดส่วนน้อยๆและการลดดอกเบี้ยไม่จำเป็นต้องเป็นแบบต่อเนื่อง 
  • นางลาการ์ดกล่าวว่า มีความเห็นพ้องกันกว้าง ๆ ว่า หากมีตัวเลือกในการขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย ความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของ ECB จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ย
  • ผู้ก่อตั้งเฮดจ์ฟันด์ Citadel ที่ติดอันดับใหญ่ที่สุดในสหรัฐ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในสหรัฐทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ มีโอกาสที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในฤดูร้อนนี้
  • ไอเอ็มเอฟ (IMF) แถลงว่า เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยึดมั่นในอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่น (Flexible Exchange Rate) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวรองรับผลกระทบและสนับสนุนวัตถุประสงค์ด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงาน โดยระบุว่า ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 22-23 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น กรรมการ BOJ ได้แสดงความเห็นว่าระยะเวลาที่ BOJ จะเริ่มปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกตินั้น กำลังใกล้เข้ามา ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า การขยายตัวของค่าจ้างจะทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพมากขึ้น
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยคาดว่าจีดีพีจะเพิ่มขึ้น 2.1% ในปีนี้ เทียบกับ 1.5% ที่คาดไว้ในเดือนต.ค. แต่ก็คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวลดลงสู่ระดับ 1.7% ในปีหน้า
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 49.2 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 49 ในเดือนธ.ค. 2566 แต่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF คาดว่า เศรษฐกิจจีนอาจฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ถ้าหากจีนทำการปฏิรูปภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม เช่น การปรับโครงสร้างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ล้มละลาย หรือใช้จ่ายมากเกินคาดเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
  • นครเซี่ยงไฮ้และเมืองซูโจว ซึ่งเป็นสองเมืองใหญ่ของประเทศจีน ประกาศผ่อนปรนข้อจำกัดในการซื้อบ้านเพื่อกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากความเชื่อมั่นที่ยังคงอ่อนแอเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญวิกฤต
  • ทางการจีนกำลังเร่งผลักดันการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมธนาคาร ด้วยการนำธนาคารหลายร้อยแห่งในพื้นที่ชนบทควบรวมกิจการกับธนาคารรายใหญ่ระดับภูมิภาค ท่ามกลางสัญญาณความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. 2566 ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกลับมาขยายตัวในไตรมาส 4/2566 แม้ยังคงมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับอุปสงค์ภายในประเทศก็ตาม ทั้งนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนธ.ค. 2566 หลังจากลดลงในเดือนพ.ย. เนื่องจากผลผลิตเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์ขยายตัว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. แม้ต่ำกว่าระดับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 2.5%
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 2.76 เหรียญ หรือ 0.14% อยู่ที่ระดับ 2,039.43 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 16.50 เหรียญ หรือ 0.80% ปิดที่ 2,067.40 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 5.60 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 23.169 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.10% ปิดที่ 932.60 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 851.15 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ขายสุทธิ 27.96 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 27.96 ตัน
  • ราคาทองคำปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มลุกลามเป็นวงกว้าง และเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
  • สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกซึ่งนับรวมถึงการซื้อขายนอกตลาด (OTC) ด้วยนั้น เพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับ 4,898.8 ตันในปี 2566 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ WGC เริ่มทำการรวบรวมข้อมูลในปี 2553 หากไม่นับรวมการซื้อขาย OTC ความต้องการทองคำทั่วโลกในปี 2566 ปรับตัวลง 5% ในปี 2566 สู่ระดับ 4,448.4 ตัน อย่างไรก็ดี ความต้องการทองคำในปีดังกล่าวยังนับว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยในรอบ 10 ปี อันเนื่องมาจากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
  • WGC ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 โดยความต้องการทองคำจากธนาคารกลางในปี 2566 อยู่ที่ระดับ 1,037.4 ตัน ลดลง 4% จากระดับในปี 2565
  • นายจอห์น รีด นักกลยุทธ์การตลาดของ WGC กล่าวว่า “แม้ธนาคารกลางเข้าซื้อทองคำในปี 2566 ไม่มากเท่ากับในปี 2565 แต่ก็สูงกว่าที่ WGC คาดการณ์ไว้ ส่วนในปี 2567 นั้น เราคาดว่ายอดซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกอาจลดลงราว 200 ตัน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าในปี 2565
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันพุธ หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกเปิดเผยว่า ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในจีน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 75.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 81.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 217,000 บาร์เรล ขณะที่การผลิตน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นแตะระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว
  • คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ประกาศในวันนี้ว่า จีนจะปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ ตามการปรับตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

หัวหน้า IMF เตือนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจส่งผลถึง Bitcoin และตลาด Crypto

หัวหน้า IMF เตือนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจส่งผลถึง Bitcoin และตลาด Crypto

Kristalina Georgieva เตือน Bitcoin และตลาดคริปโต ยังไม่เคยซื้อขายในภาวะเศรษฐกิจถดถอย และอาจหนักขึ้นในปีนี้ ขณะที่ Bitcoin มีมูลค่าลดลงถึง 65% ในปีที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม