logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 13 มีนาคม 2567

  • ราคา Bitcoin ร่วงดิ่งอย่างรุนแรง เกือบหลุดระดับ 70,000 ดอลลาร์หลังเจ้ามือรายใหญ่เริ่มเทขายทำกำไร
  • Joe Biden เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีสำหรับนักขุดคริปโตสูงสุดถึง 30%
  • นักวิเคราะห์คาดราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นแตะ 140,000 ดอลลาร์ได้ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า!
  • ปริมาณซื้อขาย Dogecoin พุ่งทะยานสู่อันดับ 7 แซงหน้าเหรียญมีมตัวอื่นแม้จะทำกำไรได้น้อยกว่า
  • ‘ปูติน’ ไฟเขียว! รัสเซียลุย CBDC เต็มสูบ เตรียมปล่อย “รูเบิลดิจิทัล” สู่ระบบเศรษฐกิจ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 19-20 มี.ค. และจะออกรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาสในวันที่ 20 มี.ค.ด้วย โดยนักเศรษฐศาสตร์ทุกรายคาดการณ์ตรงกันว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25-5.50% ต่อไปในการประชุมเดือนมี.ค.
  • แคทเธอรีน มันน์ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) กล่าวว่า การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ยังอีกยาวไกล ทั้งในแง่เงินเฟ้อภาคบริการ และเงินเฟ้อสินค้า ในขณะนี้ เรายังไม่ใกล้ความสัมพันธ์ในอดีตที่สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ 2%
  • ผู้ว่าบีโอเจปรับลดมุมมองทางบวกต่อศก.ญี่ปุ่น โดย นายคาสุโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวขึ้นในอัตราปานกลาง แต่ตัวเลขเศรษฐกิจในระยะนี้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในบางส่วนของเศรษฐกิจญี่ปุ่น
  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.นี้ โดยเจ้าหน้าที่ BOJ จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการประชุมนโยบายสัปดาห์หน้า โดยผลลัพธ์ในขณะนี้ยังคาดเดาได้ยาก และจะขึ้นอยู่กับผลเบื้องต้นจากการเจรจาค่าจ้างในวันศุกร์นี้
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ (12 มี.ค.) ผ่านข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 1.8%
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกกว่า 200 จุดในวันอังคาร ขณะที่ดัชนี S&P ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง ซึ่งรวมถึงหุ้นอินวิเดีย และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,005.49 จุด เพิ่มขึ้น 235.83 จุด หรือ +0.61%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,175.27 จุด เพิ่มขึ้น 57.33 จุด หรือ +1.12%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,265.64 จุด เพิ่มขึ้น 246.36 จุด หรือ +1.54%
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% 
  • ฝ่ายวิจัยโลกจากแบงก์ ออฟ อเมริกาปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นของบริษัทในดัชนี S&P 500 ในปีนี้ขึ้นเป็น 250 ดอลลาร์ จาก 235 ดอลลาร์ที่คาดไว้ก่อนหน้า นักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า “ปี 2023 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสำหรับภาคเอกชนของอเมริกา และบริษัทต่างๆได้ปรับตัวรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และสภาวะแวดล้อมที่อุปสงค์ซบเซาแล้ว
  • ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเอพีเอซี แอดไวเซอร์ (APAC Advisors) บริษัทที่ปรึกษาจากสิงคโปร์เปิดเผยว่า สหรัฐมีแนวโน้มที่จะกำหนดมาตรการควบคุมเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบการแข่งขันจากจีน ในขณะที่เดินหน้าลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจจากจีน (decoupling)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -22.49 เหรียญ หรือ -1.03% อยู่ที่ระดับ 2,158.73 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 22.50 เหรียญ หรือ 1.03% ปิดที่ 2,166.10 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 32.10 เซนต์ หรือ 1.30% ปิดที่ 24.394 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 12.30 เหรียญ หรือ 1.31% ปิดที่ 928.20 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 815.13 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ขายสุทธิ 7.78 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 63.98 ตัน
  • นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ให้มุมมองว่า ระยะยาวมองว่าราคาทองในตลาดโลกมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นถึง 2,200 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือราคาปลีกในประเทศไปอยู่ที่บาททองคำละ 38,000 บาท สาเหตุที่ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นน่าจะมาจากแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางในหลายประเทศมีการซื้อทองเข้าสต็อกเพิ่มเติม โดยส่วนตัวคาดว่าคงมีการเข้ามาซื้อของกองทุนต่างประเทศด้วย และราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นมากทำให้มีนักลงทุนในประเทศหันมาซื้อทองเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ปรับเพิ่มคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 77.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 81.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจาก EIA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 260,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 13.19 ล้านบาร์เรล/วัน จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 170,000 บาร์เรล/วัน
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ราคาทองปิดบวก 6.00 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนเข้าซื้อทองเพื่อเก็งกำไรในวันศุกร์ที่ผ่าน

ในสัปดาห์นี้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐไม่มากนักทำให้นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด

อ่านเพิ่มเติม