logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2567

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.1 จุด หรือ -0.09% มาอยู่ที่ระดับ 105.2 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 4.49% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.868% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.38% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
  • ฟิลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า เหมาะสมที่ธนาคารจะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้คงที่จนกว่าจะมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมาย 2% 
  • นักวิเคราะห์ บริษัทเบรียน แคปิตัลประเมินว่า ถ้าหากไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เฟดก็ไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงสู่ 2% ได้อย่างยั่งยืน” และการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวที่ 3.1% ก็ถือว่าอยู่ใกล้กับระดับเพดานของกรอบตัวเลขที่เฟดมองว่ายังคงอยู่ภายใต้การควบคุม”
  • ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายประจำวันที่ 10-11 เม.ย. โดยรายงานประชุมแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน ยังคงมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงสู่ 2% ในปีหน้า ดังนั้นอีซีบี จึงมีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงจากสถิติสูงสุดที่ 4.00% ในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย.
  • นักเศรษฐกิจส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งภายในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน การคาดการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเฟดปรับเพิ่มประมาณการณ์เงินเฟ้อต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง แม้เฟดจะส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ย แต่เงินเฟ้อที่ยังทรงตัวสูงและคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความกังวลว่าเฟดอาจจะไม่ลดดอกเบี้ยเลยในปีนี้
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ผู้บริโภคของสหรัฐปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งในระยะใกล้และในระยะยาว ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ รวมทั้งรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,431.51 จุด ลดลง 81.33 จุด หรือ -0.21%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,221.42 จุด ลดลง 1.26 จุด หรือ -0.02% 
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,388.24 จุด เพิ่มขึ้น 47.37 จุด หรือ +0.29%
  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า กระทรวงการคลังจีนเตรียมจัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลกลางของจีนมีอายุการไถ่ถอนยาวนานพิเศษ (Ultra-long special central government bonds) วงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (1.38 แสนล้านดอลลาร์)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -24.51 เหรียญ หรือ -1.04% อยู่ที่ระดับ 2,336.0 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 32 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 2,343.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 6.3 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 28.443 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 1,010.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 831.92 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 0.27 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 47.19 ตัน
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ในสหรัฐและจีนซึ่งเป็น 2 ประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 79.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 83.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่าอุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์อเมริกา (AAA) คาดการณ์ว่า กิจกรรมการเดินทางในช่วงวันหยุดเนื่องในวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ (Memorial Day) ในปีนี้จะอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2548
  • ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในวันพุธนี้
  • นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ดัชนีผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเดือนที่ 3 ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ในจีน
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม