ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง

• ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.84 จุด หรือ -0.8% มาอยู่ที่ระดับ 104.2 จุด
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.1 % มาอยู่ที่ระดับ 4.34% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -0.09 % มาอยู่ที่ระดับ 4.724% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.38% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
• Austan Goolsbee ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ประจำชิคาโก แสดงความยินดีต่อภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในเดือนเมษายน แต่ยังมองว่าอัตราเงินเฟ้อควรลดลงมากกว่านี้กูลส์บี กล่าวหลังจากมีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อ (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) ชะลอตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยเขาต้องการเห็นข้อมูลลักษณะนี้เพิ่มเติมก่อนที่จะสนับสนุนการลดดกเบี้ย
• ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ ถ้าหากอีซีบียังคงมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนจะปรับเข้าใกล้ระดับเป้าหมาย
• กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แนะนำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก โดยดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ BOJ ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีในการประชุมเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
• ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.50% ในวันนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการสัญญาณว่า ธนาคารกลางจีนมีความตั้งใจจะพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยไม่สร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินหยวน

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ

• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันพุธ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1% หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,908.00 จุด เพิ่มขึ้น 349.89 จุด หรือ +0.88%
• ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,308.15 จุด เพิ่มขึ้น 61.47 จุด หรือ +1.17% 
• ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,742.39 จุด เพิ่มขึ้น 231.21 จุด หรือ +1.40%
• ดัชนี CPI เดือนเม.ย.ที่ออกมาต่ำกว่าคาดยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงในไตรมาส 2 ปีนี้ และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคปรับตัวลดลง และจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ
• FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่าขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 75.3% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 65.1% ในการสำรวจเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
• นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า การที่รัฐบาลสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารอบใหม่จากจีนนั้น จะช่วยปกป้องธุรกิจและแรงงานของสหรัฐ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในสหรัฐ

ข่าวเกี่ยวกับทองคำ

• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

• ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 28.96 เหรียญ หรือ 1.23% อยู่ที่ระดับ 2,386.0 เหรียญ
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 35 เหรียญ หรือ 1.48% ปิดที่ 2,394.90 เหรียญ
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.027 เหรียญ หรือ 3.58% ปิดที่ 29.729 เหรียญ
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 25.50 เหรียญ หรือ 2.44% ปิดที่ 1,070.10 เหรียญ
• กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าซื้อเข้า 1.44 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 833.36 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ซื้อสุทธิ 1.17 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 45.75 ตัน

ข่าวน้ำมัน

• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลงมากกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 78.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 82.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ในช่วงแรก ราคาน้ำมันปรับตัวลง หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2567 ลง 140,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอของประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)
• ต่อมานั้นราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น ขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ปรับตัวลง 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 400,000 บาร์เรล