ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลง -0.24% สู่ระดับ 103.32 จุด และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.08% มาอยู่ที่ระดับ 3.817%

                ราคาทองคำร่วงแรง 11.10 เหรียญ เนื่องจากนักลงทุนได้มีการลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังการเปิดเผยตัวเลขดัชนี CPI ทั่วไป เพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือน พ.ค. ซึ่งน้อยกว่าคาดไว้ที่ระดับ 4.1% และน้อยกว่าเดือน เม.ย ที่ระดับ 4.9% นับว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2564  โดยถึงแม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงหนุนคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่ตลาดได้ซึมซับกระแสคาดการณ์ดังกล่าวไปแล้ว

               ขณะนี้เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 10.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% และนักลงทุนให้น้ำหนักถึง 89.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวนักทุนได้ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยส่งผลหนุนราคาทองคำ

               ทั้งนี้ นักลงทุนยังจับตาแถลงมติการประชุมในวันพุธที่ 14 มิ.ย.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 15 มิ.ย.ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมครั้งนี้