ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.39 % สู่ระดับ 105.04 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 3.924%

               ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังแตะระดับที่ 1804 เนื่องจากแรงซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจากความกังวลตัวเลขเงินเฟ้อประเทศในโซนยุโปรปรับตัวสูงขึ้น โดยจากรายงานระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.2% ในเดือน ก.พ. ซึ่งสูงกว่าในเดือน ม.ค. ที่ระดับ 7.0% และอัตราเงินเฟ้อของสเปนเพิ่มขึ้น 6.1% ในเดือน ก.พ. ซึ่งสูงกว่าในเดือน ม.ค.ที่ระดับ 5.9% แม้ราคาทองคำจะถูกแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า ความกังวลจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นจะหนุนราคาทองคำให้กลับมายืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์ ภายในปีนี้

               ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาทองคำโลก ( WGC ) ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเป็นทุนสำรองในปี 2565 รวมกันมากถึง 1,136 ตัน คิดเป็นมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2510